ประเภทของสายพานอุตสาหกรรม เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสม

ในอุตสาหกรรมหรือโรงงานหลาย ๆ แห่งนิยมใช้สายพานเพื่อนำส่งสิ่งของจากที่หนึ่งไปยังที่หนึ่ง โดยการคล้องกับเครื่องจักรเพื่อทำให้หมุน ให้การขนถ่ายวัตถุเคลื่อนไปได้ง่ายและลดกำลังคนในการลำเลียง ซึ่งการลำเลียงวัตถุในแต่ละแบบก็ใช้สายพานที่แตกต่างกันออกไปเพื่อรับน้ำหนักของวัตถุที่ต้องการขนย้ายหรือว่าจะเป็นต้องการใช้สายพานเพื่อการขนวัตถุที่มีจำนวนที่เยอะนั่นเอง

สายพานประเภทส่งกำลัง 

สายพานประเภทนี้จะนิยมใช้ในเครื่องจักร มีหน้าที่คือส่งกำลังระหว่างตัวขับ(Driver) และตัวตาม(Driven) โดยสายพานจะคล้องไปที่ล้อของสายพานหรือ Pulley ของตัวขับและตัวตาม จะมีการส่งกำลังแบบทดรอบและจะทดกำลังเสมอ ซึ่งสายพานส่งกำลังก็จะมีชนิดที่แตกต่างกันไปคือ สายพานกลม สาบพานแบน สายพานวี และสายพานไทม์มิ่ง  

• สายพานกลม

สายพานกลม (Round belt หรือ Rope belt) ทำมาจากพลาสติกโพลียูริเทน ที่จะเป็นตัวต้านทานจารบี น้ำมัน และน้ำ สายพานกลมสามารถปรับทิศทางของการหมุนได้หลายทิศทางตามความต้องการ มีหน้าตัดเป็นรูปวงกลมตามชื่อเรียก การส่งกำลังด้วยสายพานกลมจะทำให้มีความยืดหยุ่นที่สูงทำให้การขนส่งวัตถุไม่เกิดเสียงดัง

• สายพานแบน 

สายพานแบน (Flat belt) สายพานชนิดนี้นิยมใช้กันมากในอุตสาหกรรม ใช้ในการส่งกำลังจากพูลเลย์ของเพลาขับไปยังพูลเลย์ของเพลาตาม เป็นสายพานที่เราต้องการให้เกิดการทำงานบ่อย ๆ เเช่น ปั๊มน้ำ พัดลม ซึ่งสายพานแบนจะมีชนิดที่ใช้กับงานเบา งานปานกลาง และสายพานที่นำไปใช้กับงานหนัก

• สายพานวี

สายพานวี (V-belt) จะมีหน้าตัดเป็นรูปตัววี เหมาะกับเครื่องจักรที่รอบไม่สูงมากและต้องการพื้นที่สัมผัสในการส่งถ่ายกำลังเยอะกว่าสายพานแบบกลมและแบบแบน เป็นที่นิยมใช้กับเครื่องจักรในอุตสากรรม

• สายพานไทม์มิ่ง 

สายพานไทม์มิ่ง (Timing belt) ชนิดนี้จะมีความพิเศษมากกว่า 3 แบบแรก ในสายพานจะมีฟันเฟืองตลอดของความยาวของสายพานทั้งเส้น ลักษณะจะเป็นหน้าตัดรูปสี่เหลี่ยมคางหมูสามารถงอตัวได้ดี จะขับกับ Pulley ที่มีฟันเป็นไทม์มิ่งทำให้มีการขมกันเหมือนฟันเฟืองจึงไม่ทำให้ไหลลื่นเวลาใช้งาน เป็นตัวส่งกำลังในเครื่องยนต์ พัดลมอุตสาหกรรม หรือในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้สายพานในการส่งกำลัง 

สายพานประเภทลำเลียง

สายพานประเภทนี้จะทำหน้าที่ในการขนย้ายหรือลำเลียง สิ่งของ วัตถุจากจุกหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง เพราะอุตสาหกรรมทุกประเภทจะใช้สายพานในการลำเลียงเป็นจำนวนมาก ซึ่งการหมุนของสายพานจะหมุนไปจนครบรอบแล้วจะวนกลับเวียนมาใหม่ ซึ่งประเภทของสายพานลำเลียงแยกออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้

1. ระบบสายพานลำเลียง PU  

ลักษณะของสายพานแบบพียูคือมีผิวด้านบนที่แข็งแรง สามารถทนต่อแรงขีดข่วนได้ดี สามารถทนต่อสารเคมีและความร้อนได้หลายร้อยองศา เหมาะกับการใช้งานการลำเลียงทั้งแนวราบและแนวเอียงรวมไปถึงหารลำเลียงอาหารที่มีความชื้นได้

2. ระบบสายพานลำเลียง PVC

ลักษณะของสายพานแบบพีวีซี ด้านบนจะมีลักษณะเป็นผิวมันส่วนด้านล่างจะเป็นผ้าไนลอน สายพานชนิดนี้เหมาะกับงานอุตสาหกรรมทั่ว ๆ ไปแต่จะไม่ทนความร้อนได้ถ้ามีความร้อนสูงเกิน 80 องศา สายพานนี้มีราคาถูกเหมาะกับการลำเลียงวัตถุที่มีน้ำหนักเบาเหมาะกับการลำเลียงประเภทอาหาร

3. ระบบสายพานลำเลียงยางดำ

สายพานแบบยางดำจะมีทั้งเรียบและแบบบั้ง เป็นสายพานที่มีความทนทานต่อแรงดึงดูดได้สูงและทนทานต่อการสึกหรอ หากโดนตัดหรือโดนเจาะไม่ทำให้ขาดง่าย เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมประเภทโลหะโรงโม่หิน อุตสาหกรรมกระจก สามารถรองรับการกระแทกหรือใช้ลำเลียงวัตถุที่มีขนาดใหญ่รวมไปถึงวัตถุที่แหลมคม ผิวขรุขระเป็นต้น

4. ระบบสายพานลำเลียงโวลต้า 

สายพานประเภทนี้จะเป็นยางเทอร์โมพลาสติก ที่มีความเหนียว 0.3 – 0.6 มิลิเมตร มีลักษณะผิวที่ลื่นสามารถทำความสะอาดได้ง่ายป้องกันแบคทีเรียได้ เหมาะสำหรับการลำเลียงพวกอาหารทะเล

5. สายพานลำเลียงตะแกรง

เป็นสายพานตะแกรงกึ่งโลหะ ที่มีการสร้างมาจากเหล็กปและแสตนเลทมีทั้งแบบตะแกรงเล็กและใหญ่ เหมาะสำหรับการลำเลียงวัตถุที่มีอุณหภูมิสูง เพราะมีความทนทานต่อความร้อน ความเย็นและทนน้ำมันได้ดี เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมประเภทอาหารที่ผ่านความร้อนมาจากเตาอบ 

6. ระบบสายพานลำเลียงโมดูล่า

 สายพานโมดูล่าจะมีลักษณะเป็ยพลาสติดชนิดพิเศษ โดยจะมีการขึ้นรูปเป็นชิ้น ๆ ต่อกันเหมือนตัวต่อ เพื่อประกอบเป็นความกว้างความยาวได้ตามต้องการ สายพานจะมีความแข็งแรงสูงสามารถทนแรงเสียดสี การกัดกร่อนได้ดีและทนอุณภูมิ -60 ถึง 180 องศา เหมาะกับการลำเลียงอาหาร วัสดุหรือผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ 

การใช้สายพานเพื่อส่งกำลังของวัตถุหรือใช้สายพานเพื่อการลำเลียงวัตถุ อุตสาหกรรมและโรงงาน 80% ใช้ในการผลิต การใช้งานของสายพานมีความจำเป็นมากในการผลิตหรือการใช้งานเพื่อเคลื่อนวัตถุ เราต้องเลือกสายพานที่เหมาะสมกับประเภทวัตถุด้วย เพื่อลดความสึกหรอรวมถึงความปลอดภัยและประสิทธิผลในการลำเลียงสินค้า